งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาองค์ประกอบทางเคมี และฤทธิ์ของสารสกัดดอกบัวหลวง ในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และยังศึกษาฤทธิ์ทางชีวภาพต่อระดับน้ำตาลในเลือด ค่าเคมีโลหิต ระดับฮอร์โมนอินซูลินในซีรัม นอกจากนี้ ยังศึกษาลักษณะจุลพยาธิสภาพของเนื้อเยื่อตับอ่อนในหนูขาวสายพันธุ์ GK/JCL ทำการสกัดสารจากดอกบัวหลวงด้วยเอทานอล 95 เปอร์เซ็นต์ วิเคราะห์หาองค์ประกอบทางเคมี ด้วยเครื่อง GC-MS ทดสอบฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดสโดยเปรียบเทียบกับ ยาอะคาร์โบส ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี DPPH และทดสอบฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด โดยการแบ่งหนูทดลองออกเป็น 5 กลุ่ม ๆ ละ 6 ตัว กลุ่มที่ 1 หนูควบคุมที่ได้รับน้ำกลั่น กลุ่มที่ 2 หนูที่ได้รับยาไกลเบนคลาไมด์ขนาด 0.25 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม กลุ่มที่ 3 หนูที่ได้รับสารสกัดขนาด 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม กลุ่มที่ 4 หนูที่ได้รับสารสกัดขนาด 250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม และกลุ่มที่ 5 หนูที่ได้รับสารสกัดขนาด 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม บันทึกระดับน้ำตาลในเลือดหนูทดลองในวันที่ 1 วันที่ 4 และวันที่ 8 เมื่อทดลองครบ 8 วัน เก็บตัวอย่างเลือดจากหัวใจหนู เพื่อตรวจวิเคราะห์ค่าเคมีโลหิต และระดับฮอร์โมนอินซูลินในซีรัม ผลการทดลองพบองค์ประกอบทางเคมีของสารสกัดทั้งหมด 87 ชนิด เป็นสารที่พบในปริมาณมาก 5 ชนิด คือ Nonacosan-10-OL (26.89 %), n-Hexadecanoic acid (14.51 %), 9,12-Octadecadienoic acid (Z,Z)- (9.47 %), 9,12,15-Octadecatrienoic acid, (Z,Z,Z)- (6.74 %) และ6a-beta-Aporphine, 1,2-dimethoxy- (3.02 %) และสารปริมาณน้อย 82 ชนิด สารสกัดมีฤทธิ์ยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดสสูงกว่ายาอะคาร์โบส โดยมีค่า IC50 เท่ากับ 0.07 และ 0.32 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร ตามลำดับ สารสกัดที่ความเข้มข้น 400 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าสาร Butylated hydroxytoluene (BHT) โดยมีเปอร์เซ็นต์การกาจัดอนุมูลอิสระเท่ากับ 87.25 ± 1.05 % และ 49.57 ± 1.22 % ตามลำดับ นอกจากนี้สารสกัดที่ขนาด 100 250 และ 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม ทำให้หนูกลุ่มที่ 3 กลุ่มที่ 4 และกลุ่มที่ 5 มีระดับน้ำตาลในเลือดลดลงมาใกล้เคียงกับหนูกลุ่มที่ 2 สำหรับผลการทดสอบฤทธิ์ทางชีวภาพของสารสกัดต่อค่าเคมีโลหิต พบว่า สารสกัดขนาด 500 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีฤทธิ์ในการลด ค่า Blood urea nitrogen (BUN) และ ค่า Creatinine (Cr) ในเลือดของหนูกลุ่มที่ 5 ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) เมื่อเปรียบเทียบกับหนูกลุ่มควบคุม สารสกัดขนาด 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีแนวโน้มในการลดค่า Aspartate Transaminase (AST) Alkaline phosphatase (ALP) และAlanine aminotransferase (ALT) ในเลือดของหนูกลุ่มที่ 3 ได้ แต่ไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุม และสารสกัดขนาด 250 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีแนวโน้มในการเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี High-density lipoprotein (HDL) และลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี Low-density lipoprotein (LDL) ในเลือดของหนูกลุ่มที่ 4 แต่ไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุม อย่างไรก็ตาม หนูที่ได้รับสารทดสอบทุกกลุ่มมีระดับฮอร์โมนอินซูลินในซีรัมไม่แตกต่างกัน และไม่แตกต่างจากหนูกลุ่มควบคุม นอกจากนี้สารสกัดขนาด 100 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม มีผลทำให้พยาธิสภาพของเนื้อเยื่อตับอ่อนบริเวณ ไอเลตส์ออฟแลงเกอร์ฮานส์กลับมามีรูปร่างปกติ การศึกษาครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สารสกัดดอกบัวหลวงมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ และฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดส่วนหนึ่ง เกิดจากสารสำคัญที่เป็นองค์ประกอบในสารสกัด และความสามารถของสารสกัดในการยับยั้งการทำงานของเอนไซม์แอลฟา-กลูโคซิเดส โดยไม่เกี่ยวข้องกับฮอร์โมนอินซูลินในซีรัมสารสกัดดอกบัวหลวง จึงเหมาะในการนำมาใช้รักษาผู้ที่มีภาวะของระดับน้ำตาลในเลือดสูง หรือเริ่มป่วยเป็นโรคเบาหวาน
http://www.repository.rmutt.ac.th/xmlui/handle/123456789/3678