การศึกษาวิจัยเรื่อง วิธีการทำใบบาง จากใบบัวหลวง และแนวโน้มในการพัฒนาสู่การทำผลิตภัณฑ์ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากรรมวิธีที่เหมาะสมในการทำ ใบบางจากใบบัว และ พัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ และเสริมแนวคิดในการนำใบบางสู่การพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ในรูปแบบต่าง ๆ เน้นการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ในเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์งานประดิษฐ์ วิธีการศึกษา กรรมวิธีการทาใบบางจากใบบัวหลวง โดยการทดลอง มีปัจจัยที่ทาการศึกษา 2 ประการ ได้แก่ ปัจจัยแรก คือ ชนิดของใบบัวหลวง มีจานวน 3 สายพันธุ์ ได้แก่ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบุษย์ ใบบัวหลวงสายพันธุ์สัตตบงกช และใบบัวหลวงสายพันธุ์พระราชินี และปัจจัยที่สอง คือ กรรมวิธีการทาใบบาง โดยการทดลอง 2 วิธี คือ วิธีที่ 1 การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (การแช่ในน้าสะอาด) ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน และ วิธีที่ 2 การหมักใบบัวในน้าที่มีสบู่กรดเป็นส่วนผสมในปริมาณของสบู่กรด 1 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร และปริมาณของสบู่กรด 2 ก้อน ต่อปริมาณของน้า 25 ลิตร ใช้เวลา 7 วัน , 14 วัน และ 21 วัน สรุปผลการศึกษา พบว่า การหมักใบบัวด้วยวิธีธรรมชาติ (วิธีที่1) โดยการแช่ใบบัวด้วยน้าสะอาด พบว่า ใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบงกช ใช้ระยะเวลา 21 วัน สามารถทาใบบางออกมาได้ดีที่สุด เนื่องจากใบบางยังคงสภาพความสมบรูณ์ ของโครงสร้าง หรือเส้นใยของใบได้ดี ซึ่งเหมาะที่จะนาใบบางไปพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ได้ ส่วนผลของใบบัวหลวงพันธุ์สัตตบุษย์ และ ใบบัวหลวงพันธุ์พระราชินีที่ได้ คือ คลอโรฟิลล์และเยื่อของใบบัวหลุดออกน้อยมาก เพียงระยะเวลา 7 วัน ใบบัวจะเปื่อยและเน่าเสีย ไม่สามารถทาเป็นใบบางได้ ข้อดี ของการทดลองวิธีที่ 1 คือ จะได้ใบบางที่มีคุณภาพเส้นใยจะมีความแข็งแรง และสมบรูณ์ ข้อเสีย คือ ใช้เวลานาน
http://www.repository.rmutt.ac.th/dspace/handle/123456789/548